Diablo IV เปิดโลกอันกว้างใหญ่ในแพทช์ 1.2.1 แล้ววันนี้

หากใครกำลังรอฟังความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับตัวเกม Diablo IV อยู่ในตอนนี้ อยากจะบอกข่าวดีให้ทุกคนได้ฟังว่าทางค่าย Blizzard Entertainment ได้ประกาศออกเดียโบแพทช์ 1.2.1 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสิ่งที่จะเพิ่มเข้ามาภายในการอัปเดตครั้งนี้ก็จะมีปุ่ม Refund All (คืนทั้งหมด) ในพารากอนบอร์ดเพื่อให้ผู้เล่นปรับเปลี่ยนคุณสมบัติต่างๆ ให้ตัวละครขนานใหญ่ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงยังมีระบบต่อสู้กับ Training Dummy (หุ่นซ้อมรบ) เพื่อทดสอบทักษะของคุณในห้องใต้ดินที่ทางเข้าอยู่ในคโยวาแชด โดยผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะสู้กับหุ่นซ้อมรบตัวเดียวหรือเป็นกลุ่มเล็กๆ หนึ่งกลุ่ม รวมทั้งกำหนดระดับความยากของการฝึกซ้อมรูปแบบนี้ได้ด้วย

ค้นพบโลกศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ผู้เล่นได้ผจญภัยไปกับเนื้อเรื่อง

งานศิลป์ของ Diablo IV นั้นเต็มไปด้วยความมืดมนและโหดร้าย โดยในรูปแบบที่มีความคล้ายคลึงกับบรรยากาศอันน่ากลัวของไดอาโบภาคสอง ซึ่งในเกมจะมีห้าโซนที่แตกต่างกัน โดยแต่ละโซนจะมีสภาพแวดล้อมอันมืดมนและดันเจี้ยนที่มีธีมเข้ากันกับโซน หนึ่งในเป้าหมายทางศิลปะของเราคือการทำให้ทุกฉากดูเหมือนภาพวาด เราจึงออกแบบสีและเท็กซ์เจอร์ของโซนอย่างละเมียดละไม เพื่อบรรลุเป้าหมายการออกแบบแสนมืดมนที่เราต้องการ นอกจากนี้มอนสเตอร์ทุกตัวในโลกศักดิ์สิทธิ์ของไดอาโบภาคใหม่ล่าสุดนั้นถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตเพื่อให้ดูมืดมนและน่าสยดสยองที่สุด ผู้เล่นจะได้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงจะได้โต้ตอบกับสัตว์ทั่วไปที่อยู่ในแต่ละโซนอย่างเป็นธรรมชาติด้วย

อาชีพยอดฮิตที่ผู้เล่นชื่นชอบมากที่สุด

ตัวเกมดังกล่าวมีคลาสอาชีพให้เลือกมากมาย นอกเหนือจากคลาสบาร์บาเรียน ซอร์เซอเรส โร้ก และดรูอิดแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคลาสที่คุณสามารถเล่นเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติได้ก็คือเนโครแมนเซอร์ในตำนาน ซึ่งเป็นคลาสที่ห้าสำหรับตัวละครที่เล่นได้ และเป็นการกลับมาจากภาคเก่าพร้อมกลไกกองทัพอันเดดแบบใหม่ โดยผู้เล่นจะสามารถใช้ Book of the Dead คัมภีร์มรณะที่เป็นความสามารถใหม่ของเนโครแมนเซอร์ได้ เพื่อกำราบสมรภูมิด้วยกองทัพอันเดดที่สามารถปรับแต่งได้ล้ำลึกกว่าที่เคย ซึ่งจะมีวอริเออร์โครงกระดูกที่มีความสามารถในระยะประชิด โดยโจมตีด้วยความดุดันและรวดเร็ว มีทั้งตัวละครที่ใช้ดาบและโล่ รวมไปถึงตัวละครที่ใช้เคียวมรณะในการต่อสู้

บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหม่นหมอง

ในภาคนี้ธีมของเกมจะกลับไปสู่รากเหง้าขอไดอาโบที่เกมอื่นทำไม่ได้ นั่นคือความดาร์คและความหม่นหมองที่อัดแน่นไปทุกดินแดน ซึ่งความดาร์คในที่นี้จะเป็ฯในเรื่องบรรยากาศภายในเกม และหากเทียบกับภาคก่อนหน้านี้จะกลายเป็นว่าภาคล่าสุดเป็นแนวระทึกขวัญไปเลย ทั้งอนิเมชั่นการตายของตัวละคร เลือดที่นองพื้นดูน่าสยดสยอง ทำให้มีความรู้สึกใกล้เคียงกับภาคสองเลยก็ว่าได้ อีกทั้งกราฟิกภายในเกมก็ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ดึงดูดผู้เล่นยุคเก่าเข้ามาสัมผัสตัวเกมนี้กันอีก