KartRider Drift อัปเดตสนามแข่งใหม่ที่มาให้เลือกถึง 2 สนาม
August 20, 2023
เกมเมอร์สายซิ่งคนไหนอดใจรอการอัปเดตครั้งใหม่ไม่ไหวแล้วบ้าง แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปเพราะความสนุกครั้งใหม่จากตัวเกม KartRider Drift นั้นเพิ่งจะเริ่มต้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยทางค่าย NEXON Korea Corporation ได้อัปเดตเกมแข่งรถข้ามแพลตฟอร์มระดับโลกซีซั่น 3 ในธีมที่ชื่อว่า Catch Me If You Can ซึ่งเป็นแพทช์ซีซั่นที่มาพร้อมสนามแข่งใหม่ 2 สนาม และผู้เล่นทุกคนจะได้สัมผัสกับการแข่งรถบนสนามแข่งใหม่ ทั้งสนาม Forest Misty Falls และ WKC Mexico Touring Rally โดยลักษณะเด่นของสนามฟอร์เรสคือการแข่งขันอันดุเดือดบนทางลัดเลาะช่วงต้นเกม และส่วนสนามเม็กซิโกทัวริ่งเรลลี่จะชึ้นชื่อในเรื่องประลองความเร็วที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของเม็กซิโก
การควบคุมที่ไม่ซับซ้อน
การควบคุมในเกมคาร์ทไรเดอี์ดริฟท์นั้นใช้ปุ่มเพียงแค่ 7 ปุ่ม นั่นคือปุ่มลูกศรขึ้น ลง ซ้าย และขวา ทั้ง 4 ปุ่มในการควบคุมทิศทาง ไปจนถึงการเร่งความเร็วและการเบรก ปุ่ม Shift ใช้ในการดริฟต์ ปุ่ม Ctrl ใช้ในการกดใช้ไอเทม และปุ่ม Alt ใช้ในการสับเปลี่ยนไอเทม แม้การควบคุมอาจจะฟังดูง่าย แต่พอได้ลองจับเองแล้ว จะรู้สึกว่ามันยากกว่าที่คิดทันที ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่าด้วยเพราะ Ping จากการเชื่อมต่อกับผู้เล่นอื่นๆ ที่มาจากทางไกล หรือว่าเพราะตัวเกมตั้งใจให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่จังหวะในการขับรถมักจะรู้สึกถึงอาการหน่วงๆ อยู่เสมอ จึงทำให้บังคับตัวรถไม่ได้ดั่งใจนึกเท่าไรนัก และตัวเกมยังได้ใส่ระบบช่วยมองข้างหลังมาด้วย ซึ่งช่วยเอาไว้ให้ผู้เล่นรับรู้สถานการณ์ แถมยังช่วยให้สามารถขัดขวางเส้นทางของคู่แข่งที่พยายามแซงเราได้ด้วย
โหมดต่างๆของตัวเกม
สิ่งที่ทำให้คาร์ทไรเดอร์ดริฟท์นั้นโดดเด่นจากเกมแข่งรถทั่วไปนั่นคือการใช้ไอเทม โดยจะช่วยส่งเสริมให้เกมนี้เข้าถึงผู้คนง่ายมากยิ่งขึ้น และไอเทมโหมดยังเป็นระบบการเล่นหลักของตัวเกมอีกด้วย รวมถึงไอเทมโหมดนี้จะมีทั้งโซโล่ ดูโอ็ และเล่นแบบทีม ซึ่งภายในหนึ่งห้องจะมีผู้เล่นทั้งหมดรวมกัน 8 คนด้วยกัน นอกจากนี้ไอเทมต่างๆ จะสามารถเก็บได้จากการขับชนกล่องไอเทมตามฉาก โดยตัวไอเทมจะมีหลากหลายประเภทแตกต่างกันไปตามลำดับของผู้เล่นที่เก็บได้
ความท้าทายที่รอให้นักแข่งเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง
ถ้าผู้เล่นอยู่ในอันดับกลางก็มักจะได้ไอเทมประเภทที่ใช้ปั่นป่วนคู่ต่อสู้ และถ้าอยู่อันดับต้นๆ ก็มักจะได้ไอเทมที่ช่วยป้องกัน ทำให้เกมการเล่นมีจังหวะชิงไหวชิงพริบระหว่างผู้เล่นอยู่เสมอ อีกทั้งตัวผู้เล่นยังสามารถเก็บไอเทมได้สองช่อง ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ไอเทมนี้ในช่วงเวลาไหน และสำหรับใครที่อยากจะท้าทายตัวเองก็ยังมีโหมดไทม์แอคแท็คที่จะเป็นการเล่นคนเดียว โดยจับเวลาว่าผู้เล่นจะสามารถทำเวลาที่ดีที่สุดได้เท่าไร รวมถึงโหมดนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยทำความคุ้นเคยกับสนามแข่งได้ดี
